หากคุณต้องการสร้างเว็บไซต์ หรือกำลังมองหาว่าขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์ต้องทำอย่างไรบ้าง วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลมาให้ทุกคน นอกจากนั้นยังมีทริคเล็กๆ น้อยว่าถ้าเราอยากให้เว็บของเรา Traffic ดี จะทำอย่างไรได้บ้าง ไปลองอ่านกันเลย

8 ขั้นตอนในการสร้างเว็บไซต์

1. ระบุวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์ของคุณ

การเริ่มต้นด้วยเป้าหมายสามารถช่วยให้คุณเลือกเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ดีที่สุดสำหรับวัตถุประสงค์ของคุณได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการขายสินค้า ให้เลือกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหรือเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่มีคุณสมบัติอีคอมเมิร์ซ

นี่คือตัวอย่างบางส่วนของประเภทเว็บไซต์ที่คุณสามารถสร้างได้:

• อีคอมเมิร์ซ/ร้านค้าออนไลน์
• บล็อกส่วนตัว
• ธุรกิจขนาดเล็ก
• ผลงาน
• การสร้างลูกค้าเป้าหมาย
• การเป็นสมาชิก/การสมัครสมาชิก
• ไม่แสวงหาผลกำไร
• พอดแคสต์
• เว็บไซต์ครอบครัว/งานแต่งงาน/งานอาบน้ำเด็ก

เมื่อคุณทราบประเภทของเว็บไซต์ที่คุณต้องการสร้างและวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์แล้ว การดำเนินการขั้นตอนถัดไปก็จะง่ายกว่ามาก

2. เลือกชื่อโดเมนของคุณ

ชื่อโดเมนคือ URL หรือที่อยู่เว็บไซต์ที่คุณพิมพ์ลงในเบราว์เซอร์เพื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ

เคล็ดลับในการเลือกชื่อโดเมนมีดังนี้:

• เลือกอันที่สะกดและจดจำง่าย
• หลีกเลี่ยงคำย่อ
• เกี่ยวข้องกับชื่อหรือธุรกิจของคุณ
• สั้นกระชับ
• เลือกโดเมนระดับบนสุด (TLD) ทั่วไป เช่น .com

มีเว็บไซต์มากมายที่คุณอาจไม่สามารถรักษาความปลอดภัยชื่อโดเมนที่คุณต้องการได้ แต่เครื่องมือสร้างชื่อโดเมนสามารถช่วยคุณค้นหาชื่อโดเมนที่ไม่ซ้ำใครได้ คุณต้องระบุให้เจาะจงเมื่อบอกวิธีเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณ

3. เลือกผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้ง

ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งของคุณให้พื้นที่เซิร์ฟเวอร์แก่คุณ ซึ่งเป็นที่เก็บและเข้าถึงไฟล์ของเว็บไซต์ของคุณ

บริการสร้างเว็บไซต์หลายแห่งเสนอแพ็คเกจโฮสติ้งเป็นส่วนหนึ่งของแผน แต่คุณอาจต้องซื้อโฮสติ้งเว็บไซต์ของคุณเองหากไม่เป็นเช่นนั้น โฮสต์จำนวนมากรวมการติดตั้ง WordPress หรือเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่เป็นกรรมสิทธิ์อื่นๆ เพียงคลิกเดียว

ประเภทของบริการเว็บโฮสติ้ง

คิดว่าโฮสต์เป็นป้ายโฆษณาและเว็บไซต์ของคุณเป็นโฆษณา ผู้ให้บริการเป็นเจ้าของโครงสร้าง แต่คุณเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะแสดงอะไร คุณสามารถเลือกโฮสติ้งที่ใช้ร่วมกัน เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวเสมือน (VPS) หรือเซิร์ฟเวอร์เฉพาะ ซึ่งทั้งหมดนี้มีกรณีการใช้งานและค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน

• โฮสติ้งที่ใช้ร่วมกัน: นี่คือบริการเว็บโฮสติ้งที่ได้รับความนิยมและถูกที่สุด เว็บไซต์ของคุณจะแชร์พื้นที่บนเซิร์ฟเวอร์กับเว็บไซต์อื่นๆ หลายแห่ง พื้นที่เก็บข้อมูลและแบนด์วิดท์มักถูกจำกัดหรือจำกัดเพื่อให้แน่ใจว่าไซต์ทั้งหมดสามารถรองรับการรับส่งข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้

• VPS: เมื่ออัพเกรดจากโฮสติ้งที่ใช้ร่วมกัน คุณอาจต้องการ VPS คุณยังคงแชร์เซิร์ฟเวอร์อยู่ แต่คุณจะได้รับส่วนหนึ่งของเซิร์ฟเวอร์และทรัพยากรสำหรับเว็บไซต์ของคุณเท่านั้น ผลลัพธ์ที่ได้คือความเร็วในการโหลดหน้าเว็บที่เร็วขึ้น และมีพื้นที่สำหรับไฟล์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าและต้องใช้ความรู้ด้านเทคนิคอีกเล็กน้อยในการจัดการ

• เซิร์ฟเวอร์เฉพาะ: เหตุผลเดียวในการเลือกเซิร์ฟเวอร์เฉพาะคือเมื่อคุณมีปริมาณการเข้าชมเว็บมากจนเกินขนาดจากการแชร์หรือโฮสติ้ง VPS ราคาสำหรับเซิร์ฟเวอร์เฉพาะนั้นสูงกว่ามาก แต่โดยทั่วไปแล้วคุณจะได้รับทรัพยากรไม่จำกัดและการสนับสนุนลูกค้า VIP

4. เลือกและติดตั้งเครื่องมือสร้างเว็บไซต์

มีเครื่องมือสร้างเว็บไซต์หลายประเภท รวมถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ตั้งค่าเว็บไซต์ของคุณสำหรับร้านค้าออนไลน์ โฮสต์เว็บพร้อมโปรแกรมแก้ไขเว็บไซต์ และเครื่องมือสร้างเว็บไซต์แบบครบวงจร เช่น Hostinger ที่รวมโดเมน โฮสติ้ง และ เครื่องมือสร้างเว็บไซต์

เครื่องมือสร้างแบบครบวงจรนั้นใช้งานง่ายที่สุด โดยนำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมในการสร้างเว็บไซต์ของคุณตั้งแต่แนวคิดไปจนถึงการเปิดใช้งาน

โฮสต์เว็บที่มีเครื่องมือแก้ไขไซต์นั้นมีราคาไม่แพงกว่า ในขณะที่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับร้านค้าออนไลน์

คุณสามารถเข้าถึงเครื่องมือสร้างเว็บไซต์บางตัวได้ฟรี เช่น Wix แต่ฟีเจอร์หลายอย่าง เช่น โดเมนแบบกำหนดเอง ใบรับรอง SSL และความสามารถในการรับการชำระเงินออนไลน์ จำเป็นต้องมีแผนสร้างเว็บไซต์แบบชำระเงิน

หรือคุณสามารถใช้ WordPress เพื่อสร้างเว็บไซต์ของคุณได้ ช่วยให้คุณควบคุมการออกแบบและฟังก์ชันการทำงานของไซต์ของคุณได้มากขึ้น แต่ต้องใช้ความรู้ด้านเทคนิคมากขึ้น หากต้องการใช้ WordPress คุณต้องเลือกบริการโฮสติ้งมากกว่าเครื่องมือสร้างเว็บไซต์

เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ดีที่สุดควรเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน เสนอแผนที่ราคาไม่แพงแต่สามารถปรับขนาดได้ และช่วยคุณสร้าง SEO และแบรนด์บนเพจของคุณ

5. ปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณ

เลือกเทมเพลต (หรือธีม) เพื่อเติมเต็มให้เว็บไซต์ดูน่าสนใจมากขึ้น ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพราะเป็นขั้นตอนที่สามารถแสดงถึงเอกลักษณ์ของธุรกิจคุณได้ 

วิธีเลือกเทมเพลต:

• เหมาะสมกับประเภทของเว็บไซต์ที่คุณกำลังสร้าง เช่น ร้านค้าออนไลน์
• ดูเข้ากันกับแบรนด์ของคุณ
• เหมาะกับงบประมาณของคุณ (หลายรายการใช้งานได้ฟรี)
• ปรับขนาดตามอุปกรณ์ที่ใช้ (เทมเพลตที่ตอบสนองต่อมือถือ)

6. เพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ด้วย SEO 

การใช้กลยุทธ์ SEO ที่ดีจะช่วยเพิ่มการมองเห็นเว็บไซต์ของคุณบน Google และเครื่องมือค้นหาอื่นๆ คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ของเว็บไซต์ของคุณได้โดยใช้ Google Analytics ปรับลิงก์ถาวร และใช้คำหลักที่เกี่ยวข้อง

7. Publish เว็บไซต์ของคุณ

หลังจากที่ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ และลองทดสอบการใช้งานแล้ว คุณก็สามารถเปิดใช้งานได้เลยทันที หากมีจุดตรงไหนที่อยากแก้ไขคุณอาจจะค่อยๆ ปรับไปหลังจาก Publish แล้วก็ได้

8. จัดการและดูแลรักษาเว็บไซต์ของคุณ

หากคุณใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์แบบครบวงจร การบำรุงรักษาเว็บไซต์ของคุณส่วนใหญ่จะเป็นไปโดยอัตโนมัติ ปลั๊กอินได้รับการอัพเดตเป็นประจำตลอดจนเครื่องมือแก้ไขเว็บไซต์ การสำรองข้อมูลอัตโนมัติก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน

หากคุณใช้ WordPress คุณอาจต้องตั้งค่าการอัปเดตอัตโนมัติของปลั๊กอินหรือตรวจสอบเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าคุณอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ การอัปเดต WordPress และปลั๊กอินเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาความปลอดภัย ดังนั้นโปรดติดตามเรื่องนี้อยู่เสมอ

Tips เพิ่มผู้ใช้งานบนเว็บไซต์

• ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ (User Experience):
  • มีการออกแบบที่ดีและใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
  • เรียบง่ายในการใช้งาน ใช้สีและรูปที่ดีเพื่อความน่าสนใจ
  • ทดสอบเว็บไซต์เพื่อหาข้อผิดพลาดและปรับปรุง
• เนื้อหาและคุณค่าเพิ่ม:
  • เนื้อหาที่น่าสนใจและมีคุณค่าสำหรับผู้อ่าน
  • สร้างบทความ, วิดีโอ, หรือเนื้อหาที่มีคุณค่าเพิ่ม และแชร์ได้บ่อย ๆ เพื่อสร้างความน่าสนใจ
  • มีปุ่มกดแชร์บทความไปยังช่องทางอื่น
• การโฆษณาและการตลาด:
  • ใฆษณาออนไลน์เพื่อเพิ่มการรู้จักเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงการโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย
  • ใช้ SEO (Search Engine Optimization) เพื่อปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณให้มีการแสดงผลดีในผลการค้นหาในเครื่องมือค้นหา
  • รูปแบบโปรโมชั่นหรือส่วนลดเพื่อดึงดูดผู้ใช้ใหม่

การเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานบนเว็บไซต์เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้และนำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจอาจช่วยเพิ่มสิ่งเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่
E-mail: contact@escendex.com
Blockdit: https://www.blockdit.com/escendex
Facebook: https://www.facebook.com/EscendeX
LinkedIn: https://www.linkedin.com/company/escendex
Medium: https://medium.com/@escendex