Figma เครื่องมือสุดฮิตสำหรับสาย UX/UI เนื่องจาก Figma เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการออกแบบและสร้างส่วนต่อประสานผู้ใช้ (UI) และการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) ในรูปแบบเว็บแอปพลิเคชัน ถือเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับทีมออกแบบที่ต้องการทำงานร่วมกันและแก้ไขภาพในเวลาเดียวกัน
Figma เป็นแพลตฟอร์มออกแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุดในวงการออกแบบ เหตุผลที่ Figma นั้น ได้รับความนิยมอย่างมาก ได้แก่:
1. การแสดงตัวอย่างที่ปรับเปลี่ยนตามอุปกรณ์
Figma ช่วยให้คุณสามารถดูตัวอย่างการออกแบบบนหลายอุปกรณ์ได้ ซึ่งช่วยให้คุณเห็นว่าส่วนต่อประสานผู้ใช้ของคุณจะดูเป็นอย่างไรบนอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต
2. การทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์
Figma อนุญาตให้ทีมออกแบบทำงานร่วมกันในเวลาเดียวกันบนโปรเจกต์เดียวกัน ทีมสามารถเห็นการอัปเดตและการเปลี่ยนแปลงของผู้ใช้งานอื่นในเวลาจริง ซึ่งช่วยให้สามารถร่วมมือแก้ไขและปรับปรุงส่วนต่อประสานผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. เลย์เอาต์แบบไดนามิก
Figma มีความยืดหยุ่นสูงในการจัดเลย์เอาต์แบบไดนามิก คุณสามารถสร้างการเรียงลำดับและการแสดงผลที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถทดสอบและปรับปรุงการออกแบบได้ในขั้นตอนต่างๆ
4. ความสะดวกในการใช้งานและการแชร์โปรเจกต์
Figma มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและเข้าใจได้ง่าย นักออกแบบสามารถแชร์โปรเจกต์ได้โดยง่ายผ่านลิงก์หรือเชิญสมาชิกใหม่ในทีมได้อย่างรวดเร็ว
5. Plugin
การใช้งาน Figma นั้น สามารถค้นหาและดาวน์โหลดปลั๊กอินและเทมเพลตต่างๆ มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกแบบได้ง่ายและรวดเร็ว Figma สามารถติดตั้งปลั๊กอินเพื่อเพิ่มฟังก์ชันเสริมและความสะดวกในการใช้งาน
เนื่องด้วยไอเดียในการออกแบบแต่ละโปรเจกต์นั้นที่มีมากมาย ทำให้การออกแบบเป็นไปได้ช้า อีกทั้งยังต้องทำงานแข่งกับเวลาด้วย การใช้ Plugin จะช่วยปรับปรุงกระบวนการออกแบบและจัดส่งงานได้เร็วขึ้น ทำให้สามารถโฟกัสไปที่การสร้างการออกแบบได้มากขึ้น ปลั๊กอินมีหลากหลายตัวทั้งที่มีมานานและสร้างขึ้นใหม่ เพื่อให้ชาว UX/UI ทุกคนได้ตามใช้กัน วันนี้เลยพามาอัพเดต 10 Plugin Figma ที่คุณควรใช้ในปี 2023
แนะนำ 10 เครื่องมือ Figma แบบอัพเดทปี 2023
1. Iconify
ไอคอนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการออกแบบเว็บไซต์และแอป เนื่องจากไอคอนเหล่านี้ทำงานเป็นตัวบ่งชี้ภาพที่ชี้นำผู้ใช้ผ่านเนื้อหาของคุณและกระตุ้นให้เกิดการโต้ตอบ Iconify เป็นเครื่องมือที่มีชุดไอคอนมากกว่า 100 ชุด และไอคอนมากกว่า 100,000 รายการ ไอคอนจากชุดไอคอนต่างๆ เช่น Font Awesome, Material Design อีกทั้งยังมี อิโมจิ เว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์ก รายการเมนู และสิ่งอื่นๆที่หลากหลาย Iconify ช่วยให้ใช้ไอคอนเพื่อปรับปรุงการนำเสนอได้ คุณสามารถค้นหาชุดไอคอนที่ต้องการได้โดยตรงและชุดไอคอนแต่ละชุดจะเข้ากันได้กับเวกเตอร์ Iconify ยังแปลโค้ดเป็นไอคอนได้ ไอคอนสามารถแก้ไขได้ ทำให้เปลี่ยนรูปลักษณ์และการทำงานให้เข้ากับเลย์เอาต์และธีมได้
Website: https://www.figma.com/community/plugin/735098390272716381/Iconify
2. Unsplash
Unsplash เป็นเว็บไซต์ที่มีรูปภาพสต็อกมายมากจนได้กลายเป็นที่นิยมในหมู่นักออกแบบ และด้วยการเปลี่ยนเป็นปลั๊กอิน Figma ทำให้ Unsplash ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม คุณสามารถเลือกและดาวน์โหลดภาพถ่ายที่ไม่มีค่าใช้จ่ายได้ ประเภทรูปภาพมีทั้งแบบทั่วไปและหมวดหมู่เฉพาะ สามารถเลือกจากภาพถ่ายคุณภาพสูงโดยไม่ต้องออกจาก Figma ทำให้การเพิ่ม แก้ไข หรือแทนที่รูปภาพเป็นเรื่องง่ายมาก
Website: https://www.figma.com/community/plugin/738454987945972471/Unsplash
3. Content Reel
นักพัฒนาเว็บหลายคนอาจคุ้นเคยกับ Lorem Ipsum ที่ใช้เพื่อสร้างข้อความจำลอง ซึ่งจะมีประโยชน์เมื่อคุณออกแบบเว็บไซต์และต้องการเนื้อหาตัวยึดตำแหน่งเพื่อเติมลงในช่องว่าง Content Reel ก็ใช้งานคล้ายกัน Content Reel เป็นปลั๊กอิน Figma ที่ช่วยให้สร้างข้อมูลจำลองสำหรับการออกแบบได้อย่างง่ายดาย มีประเภทข้อมูลที่หลากหลาย รวมถึงชื่อ บริษัท ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล และอื่นๆ
นอกจากนี้ยังช่วยให้ปรับแต่งข้อมูลให้เหมาะกับความต้องการได้ เช่น การสร้างข้อมูลสำหรับประเทศหรือภูมิภาคเฉพาะ คุณสมบัติโดนเด่นของปลั๊กอิน Figma นี้คือมันจะอัปเดตโฟลว์โดยอัตโนมัติหากปรับเปลี่ยนเฟรมหรือรูปร่างภายในการออกแบบ นอกจากนี้ คุณไม่จำเป็นต้องใช้ปลั๊กอินทุกครั้งที่ทำการแก้ไข
Website: https://www.figma.com/community/plugin/731627216655469013/Content-Reel
4. Locofy
Locofy.ai จะช่วยแปลงการออกแบบเป็นโค้ดโดยใช้ AI ทำให้ได้โปรดักส์เร็วขึ้น 5-10 เท่า ด้วยปลั๊กอินนี้ นักออกแบบสามารถขจัดความจำเป็นในการส่งมอบไฟล์การออกแบบแบบสแตติกให้กับนักพัฒนาได้ แต่สามารถให้รหัสพิกเซลที่สมบูรณ์แบบซึ่งสามารถขยายได้สูงและปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อการบำรุงรักษาที่ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างส่วนประกอบไปจนถึงการใช้ตัวแปร CSS ปลั๊กอินมีตัวเลือกมากมายในการปรับแต่งโค้ดที่สร้างขึ้น จึงสามารถเลือกที่จะส่งออกโค้ดใน React, Next.js, Gatsby, HTML-CSS และ React Native
5. Wireframer
Wireframer เป็นเครื่องมือที่ใช้ในกระบวนการออกแบบ Wireframe เพื่อที่จะให้ทีมออกแบบและลูกค้าสามารถมองเห็นโครงสร้างและเหตุผลของการจัดวางและการนำเสนอข้อมูลได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์และประเมินการออกแบบก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการพัฒนาเพิ่มเติม
Website: https://www.figma.com/community/file/1101637212272928503
6. Remove BG
Remove BG เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการลบพื้นหลัง (background) ออกจากรูปภาพ โดยเน้นในการตรวจจับและลบส่วนที่เกี่ยวข้องกับพื้นหลัง และปรับแต่งรายละเอียดเพื่อให้ผลลัพธ์ดูธรรมชาติและสวยงาม การใช้งาน Remove BG มักนำมาใช้ในการสร้างภาพประกอบ เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ การตลาดออนไลน์ หรือการแก้ไขรูปภาพอื่นๆ ที่ต้องการลบพื้นหลังออกเพื่อให้ได้รูปภาพที่สะอาดและตรงตามวัตถุประสงค์ Remove BG สามารถลบพื้นหลังของรูปภาพได้โดยตรงจากFigma จึงช่วยประหยัดเวลาในการทำงานได้เป็นอย่างมาก
Website: https://www.figma.com/community/plugin/738992712906748191/Remove-BG
7. Lottiefiles
Lottiefiles เป็นเครื่องมือสำหรับอนิเมชัน Lottie โดยมีฟังก์ชันการค้นหาและดาวน์โหลด Lottie ออนไลน์ที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือและฟีเจอร์ต่างๆ เช่น Lottie Editor ที่ช่วยในการสร้างและแก้ไข Lottie ไฟล์ รวมถึงการแชร์และติดตามคอมมูนิตี้กับชุมชนที่ใหญ่ที่สุดของนักออกแบบและนักพัฒนาที่ใช้งาน Lottie Lottiefiles ช่วยให้นักออกแบบและนักพัฒนาสามารถเพิ่มอนิเมชันที่สวยงามและแสดงความสามารถให้กับโปรเจกต์ของพวกเขาได้อย่างง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Website: https://www.figma.com/community/plugin/809860933081065308
8. Stark
Stark เป็นเครื่องมือช่วยตรวจสอบความเข้ากันระหว่างภาพกับเนื้อหา Stark ช่วยเลือกคอนทราสต์ การออกแบบตัวอักษร ข้อความแสดงแทน จุดสังเกต และอื่นๆ อีกมากมายของงานออกแบบ ตัวอย่างเช่น ตัวตรวจสอบคอนทราสต์ของ Stark จะวิเคราะห์อัตราส่วนคอนทราสต์ของสีในงานออกแบบและให้คำแนะนำในการแก้ไขสี และยังช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการพิมพ์และองค์ประกอบการออกแบบอื่นๆ
Stark เป็นเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่เน้นการตรวจสอบความสามารถในการเข้าถึงและการใช้งานของผลิตภัณฑ์ดิจิทัล โดยเฉพาะในแง่ของความเข้ากันได้กับผู้ใช้ที่มีความต้องการพิเศษ เช่น ผู้ที่มีความพิการทางการเห็น หรือผู้สูงอายุที่มีปัญหาในการใช้งานแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์
Website: https://www.figma.com/community/plugin/732603254453395948
9. Charts
Charts เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างแผนภูมิและกราฟต่างๆ โดยปลั๊กอินชนิดนี้จะมีรูปแบบและรูปแบบของแผนภูมิที่หลากหลายเช่นแผนภูมิเส้น, แผนภูมิแท่ง, แผนภูมิวงกลม, แผนภูมิเขตและอื่นๆ ซึ่งช่วยให้นักออกแบบและนักพัฒนาสามารถสร้างและแสดงข้อมูลในรูปแบบแผนภูมิที่สวยงามและน่าสนใจได้อย่างง่ายดาย การใช้งาน Charts ช่วยให้สร้างแผนภูมิที่น่าสนใจและกราฟที่สื่อความหมายได้ชัดเจน เพื่อการสื่อสารข้อมูลและข้อมูลในการออกแบบหรือโปรแกรมอย่างมีประสิทธิภาพ
Website: https://www.figma.com/community/plugin/731451122947612104/Charts
10. Mapsicle
Mapsicle เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้สร้างและแสดงแผนที่แบบโต้ตอบ (interactive maps) ช่วยให้คุณสามารถเพิ่มแผนที่ที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการ เช่น แสดงตำแหน่งที่ต้องการ, การนำทาง, แสดงข้อมูลสถานที่, การสร้างแผนที่แบบแปลกใหม่ เป็นต้น คุณสามารถปรับแต่งลักษณะและสไตล์ของแผนที่ รวมถึงการแสดงผลข้อมูลต่างๆ บนแผนที่ได้อย่างอิสระ Mapsicle เป็นปลั๊กอิน Figma ที่ให้คุณแทรกแผนที่ลงในงานออกแบบของคุณได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
Website: https://www.figma.com/community/plugin/736458162635847353/Mapsicle
แน่นอนว่าการออกแบบเว็บไซต์นั้นเป็นเรื่องท้าทายและใช้เวลานาน การใช้ Plugin เข้ามาช่วยในการใช้ Figma นั้น นับว่าเป็นแนวทางที่ดีในการลดบางขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อน รวมไปถึงช่วยปรับปรุงการออกแบบให้เหมาะสมและเพิ่มความเร็วในกระบวนการออกแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อการออกแบบมีคุณภาพมากขึ้น จะส่งผลให้ได้ผลงานที่โดนเด่นยิ่งขึ้น สำหรับใครที่อยากมีเว็บไซต์ที่สวยงามและโดนเด่น ที่ EscendeX เรามีบริการออกแบบเว็บไซต์และแอปพลิเคชันเพื่อให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นและก้าวหน้าได้อีกระดับ
สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่
E-mail: contact@escendex.com
Blockdit: https://www.blockdit.com/escendex
Facebook: https://www.facebook.com/EscendeX
LinkedIn: https://www.linkedin.com/company/escendex
Medium: https://medium.com/@escendex