Outsource หมายถึง การจ้างบริการจากองกรณ์ภายนอกหรือบุคคลที่สาม โดยไม่ใช้พนักงานภายในของบริษัทของตัวเองมาทำงาน บริษัทจะจ้างเลือกผู้เชี่ยวชาญในงานนั้นๆ โดยการมอบหมายงานบางส่วนหรือทั้งหมดให้กับองกรณ์ภายนอก ในอดีตมักเกิดในงานลักษณะเฉพาะเจาะจงเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันแพร่หลายไปในการบริหารงานของบริษัทต่างๆ มากมาย
ตามข้อมูลของ Cleaners of London บริษัทที่ทำงานให้กับ Outsource กล่าวว่าจะช่วยลดต้นทุนและให้ความยืดหยุ่น และยังกล่าวอีกว่าจะช่วยปรับปรุงคุณภาพและความเร็วของงานได้ เพราะช่วยให้พวกเขาใช้ซัพพลายเออร์ที่เชี่ยวชาญได้ ด้วยการโอนงานที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักไปยังผู้ให้บริการภายนอกทำให้บริษัทต่างๆ สามารถมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักของตนได้
ตัวอย่างเช่น ธุรกิจหลักของ Apple คือการออกแบบคอมพิวเตอร์เพื่อให้มีความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง บริษัทจ้างบุคคลภายนอกในการผลิต iPhone และ iPod บริษัทบอกว่าสามารถลดต้นทุนได้มาก
ตามพจนานุกรมของ Merriam-Webster Outsource หมายถึง: “เพื่อส่ง (งานบางส่วนของบริษัท) ให้คนนอกบริษัททำ”
คำว่า ‘global sourcing’ หมายถึงการแสวงหาผลิตภัณฑ์และบริการที่อยู่นอกเหนือขอบเขตของตน มีความหมายเดียวกับ Outsource แต่ใช้ในบริบทที่ซัพพลายเออร์เป็นชาวต่างชาติ
Outsourcing vs. Offshoring ต่างกันยังไง
Outsourcing จะหมายถึง การมอบหมายการดำเนินงานทางธุรกิจให้กับองค์กรภายนอก
Offshoring หมายถึง การย้ายกระบวนการทางธุรกิจไปต่างประเทศ
การทำธุรกิจในต่างประเทศ ยังเกี่ยวข้องกับการส่งต่องานให้กับองค์กรภายนอก ซึ่งอาจจะอยู่ภายในประเทศหรืออยู่ต่างประเทศก็ได้ การใช้ Outsourcing จากต่างประเทศที่มีต้นทุนค่าแรงถูกกว่ากลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นสำหรับบริษัทในประเทศเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว โดยในทางธุรกิจถือว่าเป็นการลดต้นทุนอย่างหนึ่ง
ธุรกิจเอาท์ซอร์สที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ :
- การออกแบบ การพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
- Content Marketing
- Recruitment
- เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT)
- บริการด้านกฎหมาย
- โลจิสติกส์
- การบริการลูกค้า การสนับสนุนลูกค้า การสนับสนุนด้านเทคนิค
- สายการผลิต
ทำไมบริษัทถึงจ้างองค์กรภายนอก?
เหตุผลหลักที่บริษัทเลือกจ้างองค์กรจากภายนอกคือการลดต้นทุน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายทางธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักหรืออุปกรณ์ต่อพ่วง ต้นทุนการผลิต ต้นทุนด้านแรงงาน และต้นทุนแฝงอื่นๆ ยังรวมถึงอัตราภาษีที่สูงขึ้นและต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น
บริษัทต่างๆ ยังใช้การเอาท์ซอร์สเพื่อลดความตึงเครียดในภาระงานและมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายหลักของธุรกิจ โดยแยกการดำเนินงานที่สำคัญน้อยกว่าออกสู่องค์กรภายนอก
นอกจากนั้น การขาดทรัพยากรทั้งทางเทคนิค บุคคลหรืออุปกรณื ก็ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายธุรกิจหันไปใช้บริการ outsource ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับงานภายในที่อาจใช้เวลานานหากต้องลงมือทำเอง
แม้ว่าจะมีข้อดีทั้งหมดก็ตาม เหตุผลหลักในการจ้างธุรกิจเอาท์ซอร์ส ก็คือ มุ่งเน้นให้ธุรกิจของตนประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทสามารถที่จะดำเนินโครงการให้ประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเอง แต่ก็ยังต้องพิจารณาทุกองค์ประกอบเพื่อให้ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว
Jérôme Barthélemy ศาสตราจารย์ด้านการจัดการที่ ESSEC Business School ให้ความเห็นใน Financial Times Lexicon ว่า
“โดยทั่วไปแล้วการจ้างบุคคลภายนอกถือเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากในการลดต้นทุนและปรับปรุงคุณภาพการบริการ เนื่องจากช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จากซัพพลายเออร์ที่เชี่ยวชาญได้ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้บริษัทต่างๆ มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักของตนโดยการโอนงานย่อยๆที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักไปยังเอาท์ซอร์ส”
ข้อดีและข้อเสียของการจ้างเอาท์ซอร์ส
ข้อดี
– ความเชี่ยวชาญ: บริการ Outsource มักจะเป็นให้บริการแบบเชี่ยวชาญในสาขาที่ตนถนัด เช่น การจ้างทำให้ด้านการตลาดดิจิทัล การจ้างบริษัททำเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น ติดต่อเรา สิ่งนี้ไม่เพียงเพิ่มความเป็นไปได้ในการทำงานให้สำเร็จ แต่ยังช่วยประหยัดเงิน และทรัพยากรที่จำเป็น รวมถึงต้นทุนในการฝึกอบรมพนักงานให้เชี่ยวชาญขึ้นและซื้ออุปกรณ์เฉพาะทางอีกด้วย
– ความรวดเร็ว: ด้วยความเชี่ยวชาญและอุปกรณ์เฉพาะทาง บริการ Outsource จึงสามารถทำงานให้เสร็จสิ้นได้รวดเร็วยิ่งกว่า
– ธุรกิจหลัก: ด้วยบางเนื้องาน อาจจะไม่ใช่เป้าหมายหลักของธุรกิจ แต่ก็ยังถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการ เช่น งานบัญชี การจ้างองค์กรภายนอกบริษัทจึงเป็นสิ่งที่หลายธุรกิจเลือกใช้บริการ เพื่อให้สามารถมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักของตนได้
– การแบ่งปันความเสี่ยง: การวิเคราะห์ความเสี่ยงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กำหนดผลลัพธ์ของโครงการหรือความสำเร็จทางธุรกิจ หากคุณจ้างบุคคลภายนอกในกิจกรรมบางอย่าง พวกเขาจะเข้ามารับผิดชอบบางอย่างแทน เนื่องจากเป็นผู้เชี่ยวชาญ จึงน่าจะมีความพร้อมที่ดีกว่าในการวางแผนปัจจัยลดความเสี่ยงของลูกค้า
– ลดต้นทุน: หากคุณจ้างบุคคลภายนอก คุณไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานภายใน ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการสรรหาและการดำเนินงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากซัพพลายเออร์อยู่ต่างประเทศในประเทศที่มีต้นทุนแรงงานต่ำกว่า
ข้อเสีย
– ข้อมูลความลับ: ผู้ให้บริการบุคคลที่สามจะสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับ รวมถึงบริการจัดหางาน บัญชีเงินเดือน และทรัพยากรบุคคล อาจมีความเสี่ยงที่ข้อมูลอาจถูกเปิดเผยแก่คู่แข่งได้
– กำหนดเวลา: บริษัทอาจอยู่ภายใต้ความเสี่ยงด้านเวลาในการทำงานให้เสร็จสิ้นหรือผลิตสินค้า/ส่วนประกอบได้ไม่ตรงเวลาหรือตามกำหนดเวลา
ยกตัวอย่าง เช่น Boeing ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐฯ มักจะออกแบบและสร้างเครื่องบินภายในบริษัทมาโดยตลอด ต่อมาได้จ้าง 787 Dreamliner เป็นผู้การผลิตแบบเอาต์ซอร์ส ที่ทำงานให้กับซัพพลายเออร์มากกว่าห้าสิบราย Boeing คิดว่าการทำเช่นนี้จะช่วยประหยัดเงินได้มากและเพิ่มความยืดหยุ่น แต่เมื่อกลางปี 2552 โบอิ้งถูกผลิตล่าช้ากว่ากำหนดการถึงสองปี สาเหตุหลัก คือ ซัพพลายเออร์ทำงานไม่ตรงตามกำหนดเวลา
– ต้นทุนที่แฝงอยู่: แม้ว่าในกรณีส่วนใหญ่การจ้างบุคคลภายนอกจะคุ้มค่าและประหยัดเงิน แต่บางครั้งอาจมีค่าใช้จ่าย ‘เพิ่มเติม’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากซัพพลายเออร์อยู่ต่างประเทศ
หากคุณกำลังพิจารณาที่จะจ้าง oursource สิ่งสำคัญคือคุณต้องชั่งน้ำหนักคือข้อดีและข้อเสียทั้งหมด
การจ้างบุคคลภายนอกจะเป็นประโยชน์อย่างมากในกรณีส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม หากคุณเลือกผู้ให้บริการ oursource ที่ไม่เหมาะสมหรือไม่เชี่ยวชาญพอ ก็อาจทำให้ประสบปัญหาร้ายแรงได้ ทาง Escendex เราเป็น oursource ผู้เชี่ยวชาญให้ที่พร้อมบริการ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น UX/UI การดูแลด้านการตลาดดิจิทัลและ SEO และบริการๆอื่นๆอีกมากมาย
สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่
E-mail: contact@escendex.com
Blockdit: https://www.blockdit.com/escendex
Facebook: https://www.facebook.com/EscendeX
LinkedIn: https://www.linkedin.com/company/escendex
Medium: https://medium.com/@escendex