การออกแบบเว็บไซต์ที่ดีช่วยดึงดูดและสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์ได้ ดังนั้นการมีเว็บไซต์ที่มีการออกแบบที่สวยงามและใช้งานง่าย จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเป็นที่น่าสนใจสำหรับลูกค้ามากขึ้น ปัจจุบันมีเครื่องมือออกแบบเว็บไซต์มากมาย ที่จะช่วยออกแบบเว็บของคุณตั้งแต่กราฟิก การวาง wirefame ไปจนถึงการจัดการหลังบ้าน ทำให้สามารถสร้างเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น ในบทความนี้ เราจะพูดถึง 5 เครื่องมือออกแบบเว็บไซต์สุดฮิตสำหรับปี 2023
1. ClickUp
ClickUp เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยในการจัดการและออกแบบโปรเจกต์ โดยจะแสดงขั้นตอนการทำงาน เพื่อให้ทุกคนในทีมเห็นข้อมูลทั้งหมด มีการแสดงรายการที่ออกแบบไว้ และยังสามารถปรับ เพิ่มหรือลดรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงานได้ ทั้งยังแสดงระยะเวลาในการทำงานในแต่ละโปรเจกต์ พร้อมทั้งยังสามารถแนบไฟล์ทั้งรูปภาพ PDF และลิงก์ต่างๆได้แบบเรียลไทม์
ข้อดีของการนำ ClickUp มาใช้เป็นเครื่องมือออกแบบเว็บไซต์ คือ ทุกคนในทีมสามารถมองเห็นงานและขั้นตอนทั้งหมดในโปรเจกต์ได้ ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันในทีมและลดข้อผิดพลาดในโปรเจกต์ได้ และมีโหมดออฟไลน์ที่ช่วยให้ทำงานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และมีแอปมือถือช่วยให้สามารถทำงานได้ทุกที่ในขณะเดินทาง
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ ClickUp ครั้งแรก อาจจะสับสนกับการใช้งานเล็กน้อย เนื่องจากที่การตั้งค่าต่างๆที่อาจดูซับซ้อน ClickUp มีแพ็คเกจราคาให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่แบบฟรีไปจนถึงแบบธุรกิจและ Enterprise
2. Figma
Figma เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบได้ทั้งเว็บไซต์และแอพลิเคชั่น Figma สามารถแสดงเชื่อมกระบวนการออกแบบหรือแสดงการใช้งานได้แบบเรียลไทม์ ทำให้ทุกคนในทีมสามารถเห็นการวางโครงร่างจนถึงการปรับเปลี่ยนแก้ไขได้แบบทันที ซอฟต์แวร์ออกแบบเว็บไซต์นี้เหมาะสำหรับการสร้างต้นแบบเว็บไซต์และภาพรวมการออกแบบเว็บไซต์ในทุกหน้า Figma สามารถเข้าถึงเครื่องมือร่วมกันได้หลาย account หลังจากที่ทำหน้าที่เป็นทำให้สามารถทำงานร่วมกันและกำหนดกระบวนการออกแบบร่วมกันได้ เนื่องจาก Figma สามารถออกแบบ UX UI ได้แบบครบวงจร ทำให้เป็นที่นิยมมากที่สุดของเหล่า UX/UI Designer
3. WordPress
WordPress เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ออกแบบเว็บไซต์ที่นิยมมากในปี 2023 ปัจจุบันมีสองเวอร์ชันหลักคือ WordPress.org และ WordPress.com ทั้งคู่ใช้เครื่องมือซอฟต์แวร์การออกแบบเว็บเดียวกัน แต่มีความแตกต่างกันเล็กน้อย คือ
WordPress.org เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถดาวน์โหลดและต้องติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์เอง ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องมีโฮสต์เว็บไซต์ของตัวเอง ขณะที่ WordPress.com จะมีโฮสต์โดย Automattic ซึ่งจะดูแลโฮสต์และการอัปเดตซอฟต์แวร์ให้ WordPress มีหลายฟีเจอร์ ให้ปรับแต่งเว็บไซต์ได้ตามความต้องการ และคุณสามารถติดตั้งปลั๊กอินใช้งานได้แบบไม่จำกัด ทำให้การออกแบบเว็บไซต์ของคุณนั้นสวยงามได้อย่างที่คาดหวัง การสร้างเว็บจาก WordPress ทำได้ง่ายกว่าการสร้างเว็บแบบการเขียนโค้ดขึ้งมาเอง ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้เก่งโค้ดดิ้งมาก WordPress เหมาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่ต้องการทำ SEO เนื่องจากมีปลั๊คอินให้ติดตั้งได้หลายตัว เช่น Yoast และ Rankmath
4. Wix
Wix เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ให้นักออกแบบเว็บไซต์เลือกใช้ในการออกแบบเว็บไซต์ มีโลโก้และasset สำเร็จให้เลือกใช้ได้เลย มีธีมหลายร้อยธีมให้เลือกใช้ โดยไม่ต้องเสียเวลาออกแบบเอง Wix มีรูปแบบให้เลือกหลายรูปแบบ ที่นิยมคือร้านค้าออนไลน์ การใช้ Wix ในการออกแบบเว็บไซต์นั้น เหมาะกับธุรกิจเน้นโชว์สินค้าหรือผลงาน ไม่ว่าจะร้านเสื้อผ้าหรือร้านอาหาร เนื่องจากไม่ต้องมีฟีเจอร์ที่เฉพาะตัวมากนัก เน้นรูปแบบและสีตามธีมที่มีให้ก็เพียงพอแล้ว และยังเหมาะกับธุรกิจที่ไม่ได้คำนึงกับ SEO มากนัก เนื่องจากการ index จาก google ทำได้ไม่ดีนัก
5. Webflow
Webflow เป็นแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เป็นแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่ให้คุณสร้างและจัดการเว็บไซต์ได้อย่างสะดวกและเรียบง่ายโดยไม่ต้องเขียนโค้ดเอง เพราะมีเครื่องมือสำหรับออกแบบหน้าเว็บ สร้างเนื้อหา จัดการฐานข้อมูล และเผยแพร่ไปยังโฮสติ้งเว็บไซต์ให้คุณแล้ว ซึ่งสำหรับใครที่ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการเขียนโค้ด หรือไม่เคยสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเองมาก่อน ก็สามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งให้สวยงายได้จากธีมที่มีให้เลือกใช้ และยังสามารถใช้ Animation ได้อีกด้วย หรือหากต้องการใช้รูปภาพหรือการเคลื่อนไหวของคุณเองก็สามารถทำได้เช่นกัน
เครื่องมือออกแบบเว็บไซต์ในปัจจุบัน ช่วยให้การสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเองสามารถทำได้ง่ายและสะดวกขึ้น แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการศึกษาสำหรับมือใหม่ สำหรับธุรกิจไหนที่อยากมีเว็บเป็นของตัวเองแต่มีเวลาที่จำกัด ทาง EscendeX เรามีบริการออกแบบเว็บไซต์ พร้อมให้คำปรึกษาฟรี
สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่
E-mail: contact@escendex.com
Blockdit: https://www.blockdit.com/escendex
Facebook: https://www.facebook.com/EscendeX
LinkedIn: https://www.linkedin.com/company/escendex
Medium: https://medium.com/@escendex